ในเวลานี้ไปสู่อาทิตย์แรกโปรแกรมหฤโหดสำหรับ หงส์แดง สำหรับเพื่อการจัดการ ไบรท์ แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่แอนฟิลด์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 30 พ.ย.นี้ พร้อมด้วยปัญหาใหญ่เมื่อ ฟาบินโญ่ มีปัญหาเจ็บจำต้องพักยาวไปจนกระทั่งต้นปีหน้า
ถึงแมตช์เกมนี้ ฟาบินโญ่ หมดสิทธิ์ลงเล่นไม่ว่าจะเจ็บหรือเปล่าเจ็บก็ตาม เหตุเพราะติดโทษแบนจากการสั่งสมใบเหลืองครบ 5 ใบ โน่นทำให้ พบร์เก้น คล็อปป์ จำต้องขบคิดอย่างมากสำหรับในการจะหาคนมาปฏิบัติภารกิจควบคุมเกมในแผงมิดฟิลด์สำหรับแมตช์ต่อกรกองทัพ "นกนางนวล"
จำเป็นต้องเห็นด้วยว่าขณะนี้ฟอร์มการเล่นของ "ลิเวอร์พูล" ออกจะดร็อปไปเยอะแยะ บางทีอาจจะมาจากอาการล้าของนักฟุตบอลก็ได้ แล้วก็จะต้องอาศัยพลังแอบแฝงสำหรับการเอาชนะหรือบางเกมก็เสมอ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อกลุ่ม นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ นายใหญ่ชาวเยอรมัน จะต้องบากบั่นหาทางปรับแต่งเป็นการด่วน
1. ขาด ฟาบินโญ่ ใจขาดไหม ?
ในแมตช์จัดการ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน วันเสาร์นี้ อย่างไรซะ ฟาบินโญ่ ก็มิได้ลงสู่สนามอยู่ดีแม้กระทั่งเจ็บไหมเจ็บ เนื่องจากว่านักฟุตบอลติดโทษแบน 1 เกมจากการสั่งสมใบเหลืองครบ 5 ใบจากแมตช์ที่เชือด "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
ขาด ฟาบินโญ่ ทำยังไง? เจาะ 5 ใจความสำคัญ หงส์แดง ต่อกร ไบรท์ตันฯ (พร้อมสถิติ)
ถ้าหากมองดูในเรื่องที่ ดาวเตะบราสิเลียน ดวงแตกได้รับบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าฉีกในเกมเสมอ ที่นาโปลี 1-1 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกึ่งกลางอาทิตย์นี้ แน่ๆว่าสาวก "เดอะ ค็อป" ถูกใจหายใจคว่ำ เนื่องจากว่า ฟาบินโญ่ เป็นผู้เล่นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ที่รอคุมเกมให้กับ "ลิเวอร์พูล"
จากอาการคราวนี้นำมาซึ่งการทำให้ ฟาบินโญ่ จะหมดสิทธิ์ลงช่วย "เดอะ เร้ดส์" ราว 10 นัดหมาย ซึ่งกว่าที่แฟนบอลหงส์แดง จะได้มองเห็น กองกลางภรรยางาม จะต้องคอยไปถึงตอนต้นปีต่อไปอย่างยิ่งจริงๆ งานนี้ทำให้ คล็อปป์ จำเป็นต้องคิดมากสำหรับในการหาตัวแทนทดแทนการขาดหายไปของ มิดฟิลด์ผู้ครอบครองสมญานาม "ฟลาโก้เก๋"
เริ่มที่เกมเปิดรังแอนฟิลด์ จัดการ ไบรท์ตัน แน่ๆว่ามีความน่าจะเป็นไปได้สูงที่จะให้ นาบี เกอิต้า ที่เจ็บป่วยตอนกึ่งกลางอาทิตย์ แม้กระนั้นในช่วงเวลานี้สุขภาพแข็งแรงพร้อมปฏิบัติหน้าที่คุมแผงกึ่งกลาง แต่ คล็อปป์ บางครั้งก็อาจจะจับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ซึ่งเคยเล่นตำแหน่งโฮลดิ้งกองกลางมาก่อน ปฏิบัติหน้าที่สำคัญนี้ก็ได้
ขาด ฟาบินโญ่ ทำยังไง? เจาะ 5 หัวข้อ หงส์แดง ต่อกร ไบรท์ตันฯ (พร้อมสถิติ)
ถ้าเกิด นายใหญ่ชาวเยอรมัน อยากได้นักฟุตบอลประสบการณ์สูงก็บางทีอาจตกลงใจจับ เจมส์ ไม่ลเนอร์ หน้าแข้งสารพัดประโยชน์แทน ฟาบินโญ่ ก็ได้ ส่วนผู้ที่จะมายืนใกล้เคียงในแผงกึ่งกลางก็อาจเป็นขาประจำอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมทั้ง อดัม ลัลลาน่า หรือจะเป็น เซอร์ดาน ชากีปรี่ ที่หายเจ็บก็มีลุ้นได้พอดีจริง เหมือนกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวการขาด ฟาบินโญ่ บางครั้งก็อาจจะมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ว่าด้วยขุมกำลังที่มีอยู่แน่ๆว่า คล็อปป์ มีตัวคงที่แทนพร้อมสำหรับเหตุการณ์แบบงี้อยู่แล้ว
2. ลุ้นคลีนชีต
สำหรับฤดูนี้ หงส์แดง ยากจะหาคำว่าคลีนชีตได้เลย โดย ณ ขณะนี้ (ก่อนเกมกับ ไบรท์ตัน) พวกเขาเสียประตูไปแล้ว 11 แมตช์ต่อเนื่องกัน พร้อมด้วยเสียไป17 ประตู จะต้องพูดว่านี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เคยชินสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" จริงๆ
ย้อนไปฤดูกาลที่แล้ว อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้เฝ้าประตูชาวบราสิเลียน ได้รับรางวัลนายทวารดีที่สุด หรือ "ถุงมือทอง" (โกลเด้น โกลบ ข้างหลังทำผลงานยอดเยี่ยมไม่เสียประตู 21 เกมลีก สวนกับผลงานในช่วงฤดูกาลนี้ตั้งแต่แมื่อที่ นายด่านแซมบ้า หายเจ็บกลับมา ยังไม่อาจจะเก็บคลีนชีตได้เลย
แฟน "ลิเวอร์พูล" ได้เห็นทีมรักไม่เสียประตูจำเป็นต้องย้อนไปเกมเชือด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0 ช่วงวันที่ 28 เดือนกันยายนก่อนหน้านี้ แม้กระนั้นสถิตินี้ก็ยังไม่ทรุดโทรมที่สุด ด้วยเหตุว่ากลุ่มเคยเสียประตูต่อเนื่องกัน 12 แมตช์มาแล้วภายใต้การจัดการงานของ รอย อีแวนส์ เมื่อปี 1998
เพราะฉะนั้นนี่เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ คล็อปป์ จะต้องขบคิดอย่างระมัดระวัง เพราะเหตุว่าการที่กลุ่มเสียประตูเกือบทุกแมตช์ บอกให้เห็นถึงเกมรับที่มีปัญหา หากแม้กลุ่มจะมี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แม้กระนั้นการขาดคู่ขาเซนเตอร์ฮาล์ฟอย่าง โฌแอล มาว่ากล่าวป ทำให้กลุ่มเล่นบกพร่องบ่อยมาก ถึงแม้ เดจนกระทั่ง ลอฟเรน จะปฏิบัติภารกิจเจริญ แต่ว่าก็ยังเป็นบ่อให้คู่แข่งขันได้เข้ามาเจาะทำคะแนนเสมอๆ
ขาด ฟาบินโญ่ ทำยังไง? เจาะ 5 หลักสำคัญ หงส์แดง จัดการ ไบรท์ตันฯ (พร้อมสถิติ)
3. โม ซาลาห์ ยังสำคัญ
ผลงาน 3 ประตูกับ 2 แอสซิสต์จาก 4 เกม ทำให้เห็นว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงมีความจำเป็นสำหรับ "ลิเวอร์พูล" เสมอ หากว่าฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวบางทีอาจจะมิได้เลิศอย่างกับฤดูที่แล้ว ตั้งแต่แมื่อที่ได้รับบาดเจ็บในเกมชนะ เลสเตอร์ สิตี้ เมื่อต.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา
สำหรับเวลานี้ ซาลาห์ กำลังพบกับบททดลองสำคัญโดยในช่วงเวลานี้ "คิง ออฟ อียิปต์" ซัดในเกมลีกไปเพียงแค่ 6 ประตู แล้วก็ 9 ประตูจากการเล่น 18 แมตช์ในทุกรายการ ด้วยเหตุนี้นี่เป็นขณะที่ลำบากสำหรับ สตาร์ลูกหนังดินแดนฟาโรห์ สำหรับในการดึงฟอร์มเก่งออกมา
อย่างไรก็ดีถึงแม้ ซาลาห์ ซึ่งซัดไป 22 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ทำให้ได้ดาวซัลโวร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ เพื่อนฝูงร่วมกลุ่ม และก็ ปิเครื่องปรับอากาศ-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้า อาร์เซน่อล เมื่อฤดูก่อนหน้าที่ผ่านมา ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญที่ คล็อปป์ ต้องมีให้ได้จริงๆแต่ว่า "บังโม" จะต้องทำใจเนื่องจากงานนี้อาจพบกองหลังไบรท์ตัน ตามติดติดแบบหายใจรดก้านคอแหงๆ
ในตอนนี้ ซาลาห์ อาจจะจะต้องคลำหาฟอร์มเก่งราว 2 ฤดูก่อนที่จะเล่นให้ "เดอะ เร้ดส์" แม้กระนั้นการที่ฟอร์มของ "บังโม" เป็นอย่างงี้หนึ่งในนั้นก็มาจากปัญหาเจ็บ กระนั้นสิ่งนี้ก็มิได้ตัดทอนความเชี่ยวชาญของเขาเพราะเหตุว่าเมื่อเช็คสถิติในเกมลีกจะมองเห็นได้ว่าเขามีสถิติสำหรับในการมานะทำประตูมากถึง 3.6 ครั้งต่อเกม และก็ถ้าเกิดมีชื่อทำแต้มในเกมกับ ไบรท์ตัน ย่อมทำให้ ซาลาห์ กลับมามั่นใจมากขึ้น
4. ถึงเวลาวิซาร์ด ออฟ อ็อกซ์(เลด)
ปัจจุบันนี้ไม่มีผู้ใดไม่ยอมรับได้ว่า อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กำลังกลับมาสู่ฟอร์มเก่งอีกที โดยในแมตช์ปัจจุบันที่เสมอกับ ทุ่งนาโปลี เมื่อ คล็อปป์ ตกลงใจส่งนักฟุตบอลลงมาเล่นในตอนต้นช่วงหลัง ฟอร์มของ "เดอะ เร้ดส์" กลับมาเด่นรวมทั้งไล่บีบคั้น "อัซซูร่า" อยู่มือ
ที่สำคัญการที่ ฟาบินโญ่ ไม่อาจจะลงเล่นในแมตช์กับ ไบรท์ตัน มีความน่าจะเป็นไปได้สูงที่ คล็อปป์ จะเลือกจับ เกอิต้า หรือ ไวจ์นัลดุม ลงมายืนเป็นโฮลดิ้งกองกลาง ซึ่งก็ถือได้ว่า คล็อปป์ บางครั้งอาจจะเลือกส่ง แชมเบอร์เลน ยืนคู่กับ กัปตัน "เฮนโด้" เพื่อติดต่อประสานงานกับ มาเน่, โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน่ รวมทั้ง "บังโม"
สำหรับในช่วงเวลานี้จำต้องเห็นด้วยว่า แชมเบอร์เลน เล่นด้วยความเชื่อมั่นและมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่สำคัญประสิทธิภาพของเขามีคุณประโยชน์อย่างยิ่ง ด้วยเหตุว่าสไตล์การเล่นที่ดุเดือดพร้อมวิ่งทะลวงเกมรับคู่ต่อสู้เข้าไปในจุดโทษ หรือการหาจังหวะสำหรับเพื่อการยิงไกล รวมถึงความถนัดสำหรับในการผ่านบอลที่ถูกต้อง สิ่งกลุ่มนี้เป็นปัจจัยหลักที่ คล็อปป์ ปรารถนาเป็นอย่างมากจาก ดาวเตะเลือดผู้ดีรายนี้
ขาด ฟาบินโญ่ ทำยังไง? เจาะ 5 หลักสำคัญ หงส์แดง ต่อกร ไบรท์ตันฯ (พร้อมสถิติ)
5. ลุ้นประตู ฟีร์มีโน่ ที่แอนฟิลด์
โรกางร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นเยี่ยมในผู้เล่นสำคัญอีกรายที่โชว์ฟอร์มได้อย่างเด่นให้ หงส์แดง โดยยิ่งไปกว่านั้นการเชื่อมเกมระหว่างมิดฟิลด์กับแนวรุก แล้วก็การติดต่อประสานงานกับ ซาลาห์ แล้วก็ มาเน่ รวมถึงการคอยแอสซิสต์ให้กับสหายร่วมกลุ่มทำแต้ม ซึ่งมองเห็นได้เป็นประจำในช่วงฤดูกาลนี้
การที่มองเห็น "บ็อบบี้" รอเชื่อมเกมเสมอๆทำให้ลืมไปเลยว่าเขามีทีเด็ดสำหรับในการทำประตูเช่นเดียวกัน แม้กระนั้นแทบจะเชื่อว่าว่า สตาร์ลูกหนังกลุ่มชาติบราซิล ยังไม่เคยมีชื่อบนสกอร์กระดานในฐานะผู้ที่ทำประตูแมตช์ที่ลงเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ ฤดูนี้เลย นี่เป็นสถิติที่น่าห่วงมากมายๆ
อย่างที่บอก ดาวเตะวัย 28 ปีมีส่วนกับเกมและก็ประตูของกลุ่มมากมาย แต่ว่าเขายังขาดความเฉียบคมในพื้นที่ในที่สุด ซึ่งสิ่งนี้เกิดเรื่องน่าวิตก เพราะเหตุว่าในฐานะกองหน้าการทำประตูได้น้อย ย่อมมีผลต่อภาวะจิตใจ รวมทั้งความมั่นใจและความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ
โดยรวมแล้ว ฟีร์มีโน่ ซัดไปแล้ว 4 ประตูในเกมลีกฤดูนี้ซึ่งจัดว่ายังไม่รุนแรงในฐานะกองหน้า โดยเหตุนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" คงจะแฮปปี้มากกว่านี้ถ้าเกิดได้มองเห็น "บ็อบบี้" จ่ายบอลเข้าไปซุกตูดตาข่าย "นกนางนวล" ในเกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้
โอเคแนวทางการทำประตูได้นับว่าเป็นโบนัสสำหรับ ฟีร์มีโน่ แม้กระนั้นถ้าหากไตร่ตรองการเล่นที่เต็มไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ระดับเวิลด์คลาส, ความฉลาด รวมทั้งการเล่นที่มองไม่เห็นแก่เฒ่า แน่ๆว่านี่เป็นนักฟุตบอลสำคัญอีกผู้ที่ หงส์แดง ต้องมีให้ได้ด้วยเหมือนกัน
สถิติ
เฮด-ทู-เฮด
- หงส์แดง ชนะ 7 เกมหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการ พร้อมยิงไป 2 ประตู รวมทั้งเสียเพียงแค่ 5 ลูกแค่นั้น
- ไบรท์ตัน ชนะ หงส์แดง ครั้งปัจจุบันในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่บ้านของพวกเขาเมื่อปี 1984
- "นกนางนวล" ชนะเพียงแค่ 2 ครั้งที่แอนฟิลด์ ในเกมลีกสูงสุดเมื่อปี 1982 แล้วก็ เอฟเอ คัพ รอบ 5 ปี 1983
- ประตูแรกจากการเจอกันในเกมลีก 3 แมตช์หลังสุดได้ผลงานของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดย "เดอะ เร้ดส์" ชนะ 1-0 ทั้งยังเกมในบ้าน และก็เกมเยี่ยมเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
หงส์แดง
- หาก หงส์แดง ไม่แพ้ในแมตช์นี้พวกเขาจะทำสถิติไม่แพ้คนใดกันในเกมลีกสูงสุดนานที่สุด 31 แมตช์ต่อเนื่องกัน เท่ากันกับสถิติเดิมที่ "ลิเวอร์พูล" เคยทำเป็นในตอนระหว่างพฤษภาคม 1987-เดือนมีนาคม 1988
- พวกเขาเป็นกลุ่มลำดับที่สี่ในหน้าประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดอังกฤษที่เก็บแต้มได้มากถึง 37 คะแนนจาก 13 เกมแรกในช่วงฤดูกาลนี้ (ถ้าชนะสถิติคะแนนจะแปรไปอีก)
- "เดอะ เร้ดส์" ชนะ 12 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูนี้ เสมอกันความมีชัยของ อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้งท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมกัน
- หงส์แดง เป็นสมาคมที่สร้างสถิติชนะรวด 13 เกมต่อเนื่องกันในบ้านตั้งแต่แมื่อเสมอ เลสเตอร์ สิตี้ เมื่อม.ค.ก่อนหน้านี้
- พบร์เก้น คล็อปป์ ไม่แพ้ในเกมพรีเมียร์ลีก 26 แมตช์หลังสุดสำหรับการเจอกับชมรมที่มีกุนซือเป็นคนอังกฤษ (ชนะ 22, เสมอ 4 เกม) แถมยังชนะ 16 เกมต่อเนื่องกันด้วย
- หงส์แดง ลงเล่น 12 เกมจากทุกรายการโดยที่เก็บคลีนชีตมิได้เลยเป็นครั้งแรกนับจากก.พ.-ม.ย. 1998 สมัย รอย อีแวนส์
ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน
- ไบรท์ตันแพ้สำหรับในการเล่นเกมลีกนัดหมายเยี่ยม 5 แมตช์ในช่วงฤดูกาลนี้นับจากที่ชนะ วัตฟอร์ด ในเกมเปิดฤดูกาล (เสมอ 1,แพ้ 4 เกม)
- "นกนางนวล" คลำหาคำว่าชนะมิได้เลยในเกมลีกนัดหมายเยี่ยม 15 แมตช์เมื่อจะต้องปะทะกับคู่แข่งขันระดับท็อปซิกข์ซ์ แถมยิงได้เพียงแค่ 4 ประตูเพียงแค่นั้น และก็เสียบานเบอะ 33 ประตู
อ่านรายละเอียดโปรโมชั่นได้ที่ลิ้งด้านล่าง